งานติดตั้งโซลาร์เซลล์ระบบออนกริด 20kw 3P จ.บุรีรัมย์
ประวัติและที่มาของจังหวัดบุรีรัมย์
บุรีรัมย์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 5 และมีพื้นที่กว้างเป็นอันดับที่ 17 ของประเทศไทย จังหวัดบุรีรัมย์เป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญสมัยอารยธรรมขอมอย่างพนมรุ้ง และเมืองต่ำ
บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งความรื่นรมย์ตามความหมายของชื่อเมืองที่น่าอยู่สำหรับคนในท้องถิ่นและเป็นเมืองที่น่ามาเยือนสำหรับคนต่างถิ่น เมืองปราสาทหินในเขตจังหวัดบุรีรัมย์มากมีไปด้วย ปราสาทหินใหญ่น้อย อันหมายถึงความรุ่งเรืองมาแต่อดีต จากการศึกษาของนักโบราณคดีพบหลักฐานการอยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยทราวดี และที่สำคัญที่สุดพบกระจายอยู่ทั่วไปในจังหวัดบุรีรัมย์มาก คือ หลักฐานทางวัฒนธรรมของเขมรโบราณ ซึ่งมีทั้งปราสาทอิฐ และปราสาทหินเป็นจำนวนมากกว่า 60 แห่ง รวมทั้งได้พบแหล่งโบราณคดีที่สำคัญ คือ เตาเผา, ภาชนะดินเผา และภาชนะดินเผาแบบที่เรียกว่าเครื่องถ้วยเขมร ซึ่งกำหนดอายุได้ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15-18 อยู่ทั่วไป และพระพุทธรูปมหาปรัชญาปารมิตตา หลังจากสมัยของวัฒนธรรมขอมหรือเขมรโบราณ แล้วหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มมีขึ้นอีกครั้งตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยปรากฏชื่อว่าเป็นเมืองเก่า และปรากฏชื่อต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ว่าบุรีรัมย์มีฐานะเป็นเมืองหนึ่ง และรู้จักในนามเมืองแปะจนถึง พ.ศ. 2476 ได้มีการจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาคใหม่ จึงได้ชื่อเป็นจังหวัดบุรีรัมย์มาจนถึงปัจจุบันนี้ชื่อเมืองบุรีรัมย์ ไม่ปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา และธนบุรีเฉพาะชื่อเมืองอื่น ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แก่ เมืองนางรอง, เมืองพุทไธสง และเมืองประโคนชัย พ.ศ. 2319
รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กรุงธนบุรี กรมการเมืองนครราชสีมา มีใบบอกเข้ามาว่า พระยานางรองคบคิดเป็น กบฏร่วมกับเจ้าโอ, เจ้าอิน และอุปฮาดเมืองจำปาศักดิ์ จึงโปรดให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อยังดำรงตำแหน่ง เจ้าพระยาจักรีเป็นแม่ทัพไปปราบจับตัวพระยานางรองประหารชีวิต และสมทบเจ้าพระยาสุรสีห์ (สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท) คุมกองทัพหัวเมืองฝ่ายเหนือยกไปตีเมือง จำปาศักดิ์, เมืองโขง และเมืองอัตตะปือ ได้ทั้ง 3 เมือง ประหารชีวิต เจ้าโอ, เจ้าอิน และอุปฮาด เมืองจำปาศักดิ์ แล้วเกลี้ยกล่อมเมืองต่าง ๆ ใกล้เคียงให้สวามิภักดิ์ ได้แก่ เขมรป่าดง, ตะลุง, สุรินทร์, สังขะ และเมืองขุขันธ์ รวบรวมผู้คนตั้งชุมชนขึ้น และต่อมาในปี พ.ศ. 2350 หรือสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชการที่ 1 จึงทรงโปรดเกล้าให้ตั้งเมืองขึ้นในเขตชุมชนดังกล่าว เรียกว่า เมืองแปะ แต่งตั้งบุรีรัมย์ และให้บุตรเจ้าเมืองผไทสมันต์แห่งพุทธไธสงเป็นเจ้าเมืองคนแรก ให้นามเจ้าเมืองว่า พระยานครภักดี ปกครองชาวเขมรป่าดง,ชาวลาวและชนเผ่าอื่นๆ ซึ่งพื้นเพของเจ้าเมืองแปะคนแรกเดิมมีนามเดิมว่า เพี้ยเหล็กสะท้อน บุตรชายของเพี้ยศรีปากหรือพระยาเสนาสงคราม เจ้าเมืองพุทไธสงคนแรก (อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์) เพี้ยศรีปากและเพี้ยเหล็กสะท้อนเคยเป็นกรมการเมืองในตำแหน่งเพี้ยโฮงหลวงของเมืองสุวรรณภูมิราชบุรินทร์ประเทศราชหรือเมืองท่งศรีภูมิ (อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด) ก่อนที่ต่อมาเพี้ยศรีปากจะแยกดินแดนเมืองสุวรรณภูมิเดิมออกมาตั้งเป็นเมืองพุทไธสงในภายหลัง เพี้ยศรีปากเป็นบุตรของท้าวพร อัญญาเมืองสุวรรณภูมิบุตรชายของท้าวเซียงเจ้าเมืองสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นเจ้าหลานและสืบเชื้อสายมาจากเจ้าแก้วมงคลเจ้าเมืองท่งศรีภูมิท่านแรก อันมีเชื้อสายกษัตริย์ราชวงศ์ล้านช้าง อีกทั้งยังเป็นปฐมบรรพบุรุษของเจ้าเมืองภาคอีสานที่ส่งลูกหลานไปปกครองหัวเมืองอีสานกว่า20หัวเมืองและภาคเหนืออีก1หัวเมือง ได้แก่ เมืองสุวรรณภูมิราชบุรีประเทษราช (เมืองสุวรรณภูมิ) เมืองร้อยเอ็ด เมืองชลบทวิบูลย์ เมืองขอนแก่น เมืองเพี้ย เมืองรัตนนคร เมืองมหาสารคาม เมืองศรีสระเกษ เมืองโกสุมพิสัย เมืองกันทรวิชัย (เมืองโคกพระ) เมืองวาปีปทุม เมืองหนองหาน (อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี) เมืองโพนพิสัย (อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย) เมืองพุทไธสง (เมืองผไทสมัน) เมืองบุรีรัมย์ (เมืองแปะ) เมืองเกษตรวิสัย เมืองพนมไพรแดนมฤค เมืองธวัชบุรี เมืองพยัคฆภูมิพิสัย (เมืองเสือ) เมืองจตุรพักตรพิมาน (เมืองหงษ์) เมืองขามเฒ่า เมืองเปือยใหญ่ (บ้านค้อ) และเมืองนันทบุรี (เมืองน่าน) ซึ่งบอกได้ว่าพระยานครภักดีเจ้าเมืองแปะหรือบุรีรัมย์ท่านแรกสืบเชื้อสายมาจากเจ้าจารย์แก้วแห่งเมืองท่งศรีภูมิและพระเสนาสงครามแห่งเมืองพุทไธสง อีกทั้งยังมีเครือข่ายทางเครือญาติกับหลายหัวเมืองทั่วภาคอีสานร่วม20กว่าหัวเมือง
ต่อมา ในปี พ.ศ. 2370 เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์เป็นกบฎ ได้ให้เจ้าราชวงศ์ยกกองทัพมากวาดต้อนผู้คนและเสบียงอาหารแถบเมืองพุทไธสง เมืองแปะ เมืองนางรอง พระนครภักดี (หงษ์) บุตรชายของพระยานครภักดีท่านแรก นำราษฎรออกต่อสู้อย่างองอาจ เมื่อสู้ไม่ได้จึงหนีไปเมืองพุทไธสมัน ทหารลาวตามไปทันแล้วจับตัวได้ที่ช่องเสม็ด (ช่องเขาที่จะไปประเทศกัมพูชา) เมื่อถูกจับแล้ว ทหารลาวนำตัวพระยานครภักดี (หงษ์) และครอบครัวที่จับได้ไปให้เจ้าราชวงศ์ แล้วถูกควบคุมตัวไว้ที่ทุ่งเมืองสุวรรณภูมิ ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งเจ้าราชวงศ์ตั้งทัพอยู่ที่นั่น แต่พระยานครภักดี (หงษ์) และครอบครัวที่ถูกควบคุมตัวได้จับอาวุธต่อสู้เพื่อหนี จึงถูกฆ่าตายหมด หลังจากที่กองทัพหลวงไทยตีทัพเจ้าอนุวงศ์แห่งนครเวียงจันทน์แตกแล้ว ได้แต่งตั้งให้หลวงปลัดซึ่งเป็นบุตรชายพระนครภักดี (หงส์) เป็นผู้รั้งตำแหน่งเจ้าเมืองแทนตั้งแต่เมืองแป๊ะ ถือได้ว่าเป็นวีรกรรมที่กล้าหาญชาญชัยและน่ายกย่องของเจ้าเมืองที่ไม่ยอมศิโรราบต่ออริศัตรู แม้ว่ากำลังพลของตนจะน้อยกว่าเป็นอย่างมากก็ตาม
ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น เมือง"บุรีรัมย์" และในปี พ.ศ. 2433 มีการประกาศเรียกชื่อข้าหลวงกำกับหัวเมืองทั้ง 4 ขึ้น โดยแยกเมืองบุรีรัมย์ไปขึ้นกับลาวฝ่ายเหนือ และพ่วงเมืองนางรองไปด้วย ซึ่งเมืองนางรองขึ้นกับเมืองบุรีรัมย์ ขณะที่เมืองพุทไธสง และเมืองตะลุง ยังคงสังกัดอยู่กับเมืองนครราชสีมา
ครั้นถึง สมัยพระยานครภักดี (ทองดี) บุตรหลวงปลัดหรือเจ้าเมืองแปะคนที่ 3 (บุตรของพระยานครภักดีหงษ์) เป็นเจ้าเมืองบุรีรัมย์คนสุดท้ายก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นผู้ว่าราชการเมือง นอกจากนี้ภายหลังท่านยังได้รักษาการเมืองนางรอง ในราว พ.ศ. 2440-2441 เมืองบุรีรัมย์ได้กลับไปขึ้นกับมณฑลนครราชสีมาเรียกว่า "บริเวณนางรอง" ประกอบด้วย เมืองบุรีรัมย์ นางรอง รัตนบุรี ประโคนชัย และพุทไธสง ภายหลังยุบตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นผู้ว่าราชการเมืองมีพระรังสรรค์สารกิจ(เลื่อน) เป็นผู้ว่าราชการเมืองท่านแรก พ.ศ. 2442 มีประกาศเปลี่ยนชื่อ ในคราวนี้เปลี่ยนชื่อ บริเวณนางรองเป็น "เมืองนางรอง"มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ตั้งที่ว่าการอยู่ที่เมืองบุรีรัมย์ แต่ตราตำแหน่งเป็นตราผู้ว่าการนางรอง กระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น "บุรีรัมย์" และเปลี่ยนตราตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการเมืองบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2444 เป็นต้นมา
พ.ศ. 2450 กระทรวงมหาดไทยปรับปรุงหัวเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้มณฑลนครราชสีมาประกอบด้วย 3 เมือง 17 อำเภอ คือเมืองนครราชสีมา 10 อำเภอ, เมืองชัยภูมิ 3 อำเภอ และเมืองบุรีรัมย์ 4 อำเภอ ซึ่งได้แก่ นางรอง, พุทไธสง, ประโคนชัย (ตะลุง) และรัตนบุรี (ปัจจุบันขึ้นกับจังหวัดสุรินทร์)
ต่อมาได้มีการตราพระราชบัญญัติระเบียบบริหารแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2476 ขึ้น ยุบมณฑลนครราชสีมา จัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคออกเป็นจังหวัดและอำเภอ เมืองบุรีรัมย์จึงมีฐานะเป็น จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จังหวัดบุรีรัมย์ถูกแบ่งเขตออกเป็นทั้งหมด23 อำเภอ ได้แก่ อเภอเมือง อำเภอคูเมือง อำเภอกระสัง อำเภอนางรอง อำเภอหนองกี่อำเภอละหานทราย อำเภอประโคนชัยอำเภอบ้านกรวด อำเภอพุทไธสง อำเภอลำปลายมาศอำเภอสตึก อำเภอประคำ อำเภอนาโพธิ์อำเภอหนองหงส์ อำเภอพลับพลาไชย อำเภอห้วยราช อำเภอโนนสุวรรณอำเภอซำนิ อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ อำเภอโนนดินแดง อำเภอบ้านด่าน อำเภอแคนดง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
ขอบคุณข้อมูลจาก : วิกิพีเดีย
วิธีการเดินทาง
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (89/1 อาคาร sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230)ไปยังจังหวัดบุรีรัมย์
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตก ไปตามถนนหมายเลข 350 ผ่านถนนรัชดา-รามอินทราผ่านถนนหมายเลข 9ถนนหมายเลข1 ถนนพหลโยธิน ถนนหมายเลข2 ถนนหมายเลข24 ถนนหมายเลข218 เพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยระยะเวลาในการเดินทางรวมทั้งสิ้น5ชม 15นาที กับจำนวนระยะทาง 381 กิโลเมตร
ติดตั้งโซลาร์เซลล์ระบบออนกริด 20kw 3P จังหวัดบุรีรัมย์ มีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
1แผงโซล่าเซลล์โมโนคริสตัลไลน์ 535 วัตต์ จำนวน 40 แผง
- โซลาร์เซลล์ ถูกคิดค้นด้วยไอเดียของแชปปิน,ฟูลเลอร์ และเพียร์สัน โดยสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1954 แล้วจึงค่อยๆถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถนำมาต่อยอดด้านอื่นๆได้มากขึ้น
การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) ตู้กระแสสลับ มิเตอร์วัดกระแสสลับ และหม้อแปลงไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ที่ใช้สารกึ่งตัวนำซิลิคอนที่คนไทยนิยมใช้มีทั้งหมด 3 ชนิดหลัก ดังนี้ โซลาร์เซลล์แบบผลึกเดี่ยว โซล่าเซลล์แบบผลึกรวม โซล่าเซลล์แบบฟิล์มบาง โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
-เป็นพลังงานสะอาด
เพราะได้มาจากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนำมาซึ่งภาวะเรือนกระจก และมลพิษทางอากาศต่างๆ
- เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด
เพราะถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ร่วมกับดวงอาทิตย์และพลังงานธรรมชาติแบบร้อยเปอร์เซนต์ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติและไม่มีวันหมดไป
- ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาด
โซล่าเซลล์สามารถช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้ง ช่วยลดค่าไฟฟ้า ช่วยกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือช่วยผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่งสามารถผลิตได้ทุกขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะต้องการมาก หรือน้อย ใช้ในพื้นที่เล็กๆอย่างเช่น บ้าน หรือ พื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เช่นกัน
-ไม่จำเป็นต้องมีระบบส่ง
เพราะโซลาร์เซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในบริเวณที่จะใช้งานได้เลย แตกต่างจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าในระบบปกติที่จะต้องนำส่ง เพราะแหล่งผลิตกับแหล่งใช้งานอยู่คนละที่กัน
-ลดค่าไฟ
สามารถช่วยลดค่าไฟให้กับเราได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการติดตั้งและใช้ระยะเวลาในการคืนทุนสั้น
-เป็นพลังงานทดแทนที่ดี
นอกจากสามารถประหยัดค่าไฟแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือผู้ที่ต้องการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย
ข้อเสีย
- ปริมาณไม่แน่นอน
เพราะกระบวนการผลิตขึ้นอยู่กับความเข้มของพลังงานแสงอาทิตย์หรือสภาพอากาศโดยตรง ถ้าหากวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าเต็มที่ ถ้าหากวันไหนอากาศไม่ดี มีฝนหรือมีหมอก ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าน้อยลง
-พลังงานไม่ค่อยสูง
เพราะความเข้มของพลังงานดวงอาทิตย์ไม่สูงมากนัก ดังนั้น ถ้าหากที่ไหนต้องการปริมาณไฟฟ้ามาก ก็ต้องใช้จำนวนโซลาร์เซลล์และพื้นที่ในการติดตั้งเพิ่มมากขึ้น
- เก็บสะสมไว้ใช้ได้ไม่นาน
เพราะกระบวนการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีแสงเท่านั้น ฉะนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์รองรับเพื่อสลับไปใช้ระบบไฟฟ้าปกติ หรือมีแบตเตอรี่เพื่อเก็บไว้ใช้ยามสำรอง
-ราคา
ราคาค่อนข้างสูงสำหรับการติดตั้งในครั้งแรก
-ใช้พื้นที่เยอะ
ในการติดตั้งแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้พื้นที่สูง เพราะเเผงโซล่าเซลล์1แผง ใช้พื้นที่ประมาณ 1-2ตารางเมตร จึงเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ
2กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ Huawei จำนวน 1ตัว
กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณไฟ ที่ใช้งานร่วมกับระบบโซล่าเซลล์ ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่ได้จากการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยจะทำการซิงโครไนซ์กัน ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ได้จากระบบโซล่าเซลล์ กับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า เมื่อใช้ไฟฟ้าเราก็จะดึงพลังงานกระแสไฟที่เราผลิตได้มาใช้จึงทำให้เราประหยัดและลดค่าใช้จ่าย แถมยังสามารถขายไฟฟ้าที่เราไ่ม่ได้ใช้ทางอ้อมด้วย(กรณีนี้ต้องยื่นเรื่องกับการไฟฟ้าก่อน)
ข้อจำกัดในการใช้งานคือ กริดไทด์อินเวอร์เตอร์จะไม่สามารถใช้งานในช่วงเวลากลางคืน และในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น ไฟดับ อินเวอร์เตอรจะหยุดทำงานทันที แม้ว่าแผงโซล่าเซลล์ยังคงใช้งานอยู่ก็ตาม
ข้อแนะนำการใช้งาน กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ ก่อนจะนำมาใช้งาน ควรคำนวณการใช้ให้เหมาะสมก็จะสามารถช่ยลดค่าไฟภายในบ้านได้ แต่ถ้าคำนวณออกมาได้ไม่เหมาะสม เช่น ถ้าติดตั้งระบบใหญ่เกินไปแต่มีการใช้งานเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้มิเตอร์หมุนย้อนได้
ข้อดี
-แปลงไฟฟ้าได้ไม่ซับซ้อน
-ช่วยลดค่าไฟได้ดี
-รักษาระดับแรงดันให้มีประสิทธิภาพ
-มีความปลอดภัยสูงต่อกการใช้งาน
-ในบางรุ่นสามารถแสดงผลการผลิตไฟฟ้าจากอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนต่างๆได้
ข้อเสีย
-ไม่สามารถใช้งานในเวลากลางคืนได้ หรือ ในเวลาที่ไฟตก ไฟดับ
3อุปกรณ์กันไฟย้อนมิเตอร์3 เฟส จำนวน 1ตัว
เป็นอุปกรณ์เสริมที่จะมีส่วนช่วยป้องการเสียหายในวงกว้างได้ดี การติดตั้งอุปกรณ์กันย้อนมีหลักการทำงานคือ จะใช้ตัว ct ตรวจจับกระแสการใช้งานในบ้านทั้งหมด ซึ่งจะค่อนข้างสะดวกสบายเพราะไม่ต้องถอดสายเมนการทำงานคือหากตัว ct ตรวจจับกระแสได้น้อยตัวควบคุมจะสั่งงานให้แผงโซล่าเซลล์จ่ายกระแสไฟฟ้าน้อยลง และจะผลิตกระแสไฟให้สัมพันธ์กับการใช้งานภายในบ้านหรือสถานที่นั้นๆ และถ้าหากมีการใช้กระแสไฟฟ้ามาก ตัวควบคุมก็จะสั่งงานให้รีเลย์จ่ายกระแสไฟเต็มที่ จนทำให้มิเตอร์บริเวณหน้าบ้านหมุนได้ช้าลงหรือหยุดหมุน ช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟได้
4อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต อินเวอร์เตอร์ จำนวน 1ตัว
-เป็นระบบตรวจวัดและเก็บข้อมูลในระยะไกลที่สามารถแสดงผลผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนได้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบโจทย์และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ติดตั้งที่จะสามารถตรวจสอบ ตรวจเช็คได้ ซึ่งข้อมูลที่แสดงผลเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งจะแสดงทั้งค่ารังสีของพลังงานเเสงอาทิตย์ ค่าอุณหภูมิ และค่าอื่นๆทางไฟฟ้า
5ตู้ควบคุมการทำงานระบบพร้อมอุปกรณ์กันไฟกระโชก จำนวน 1ตัว
-เป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชกที่เหนี่ยวนำเข้ามาในระบบไฟฟ้าแรงต่ำ แบบ 1 เฟส 2 สาย และ 3 เฟส 4 สายที่เกิดจากฟ้าผ่า การลัดวงจรของระบบส่งกำลังไฟฟ้า การปิดเปิดของเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ และจากสาเหตุอื่นๆ ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ได้รับความเสียหาย รวมถึงผู้ที่ปฏิบัติงานได้รับความปลอดภัยสูงสุด
อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก ที่สามารถป้องกันไฟกระโชกได้มี 2 รูปแบบ ไฟกระโชกแบบช่วงสั้นและไฟกระโชกแบบช่วงยาวอุปกรณ์ป้องกันฯ ไม่มีผลต่อการกินกระแสไฟฟ้าของโหลด เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต่อขนานกับระบบไฟฟ้า ดังนั้นกรณีที่อุปกรณ์ป้องกันฯ ได้รับความเสียหาย จึงสามารถถอดซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ได้ โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น
6 mounting system โครงสร้างอะลูมิเนียมสำหรับติดตั้งแผงบนหลังคาเหล็ก จำนวน 1ตัว
ประโยชน์
การติดตั้งระบบออนกริดเหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการปรับลดอัตราค่าไฟ หรือสำหรับผู้ที่มีความต้องการขายไฟคืนให้กับการการไฟฟ้า ซึ่งการติดตั้งระบบออนกริดสามารถทำได้ทั้งในอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหรรมที่มีอัตราและชั่วโมงการใช้ไฟสูงมากในแต่ละวัน โดยระบบโซล่าเซลล์แบบออนกริด เป็นการเชื่อมต่อสายตรง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ ระบบออนกริดเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ร่วมกับไฟฟ้าหลัก เป็นระบบที่เหมาะแก่การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก โดยหลักการทำงานของของระบบออนกริดคือการนำพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ที่ผลิตได้มาใช้ก่อนนั่นเอง