ประวัติความเป็นมาของถนนรามคำแหง
ถนนรามคำแหงเป็นถนนหนึ่งเส้นในจังหวัดกรุงเทพมหานครที่มีประวัติความเป็นมาและเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เดิมทีถนนรามคำแหงเส้นนี้ มีชื่อว่า “ถนนสายพระโขนง คลองตัน บางกะปิ” สันนิษฐานว่าถนนรามคำแหงน่าจะสร้างต่อจากทางสายพระโขนง คลองตัน ไปจนถึงอำเภอบางกะปิ ระหว่างปี พ.ศ.2498-2505 ดังปรากฏแนวถนนเส้นนี้ในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลหัวหมาก อำเภอบางกะปิ จังหวัดพระนคร พ.ศ.2506 ถนนรามคำแหงมีพื้นที่ราวๆ18กิโลเมตร แบ่งออกเป็น2ช่วง คือ ช่วงจากสี่แยกคลองตันถึงแยกลำสาลี และช่วงจากแยกลำสาลีถึงแยกสุวินทวงศ์
ต่อมาในปี พ.ศ.2506 รัฐบาลมีโครงการจะพัฒนาพื้นที่ตำบลหัวหมาก อำเภอบางกะปิ เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ครั้งที่ 1 และกิจกรรมการแสดงต่างๆ ของทางราชการ อีกทั้งในรัฐบาลของ จอมพลถนอม กิตติขจร ได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 6 ใน พ.ศ.2513 ในราวปี พ.ศ.2509 จึงมีโครงการก่อสร้างสนามกีฬากิตติขจร (ปัจจุบันคือ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก) ที่เขตบางกะปิ และได้มีการก่อสร้างถนนเพชรบุรีช่วงที่ 2 ไปจรดถนนพัฒนาการเพื่อเชื่อมต่อกับถนนรามคำแหง เพื่อใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ชั้นในกับสนามกีฬาที่สร้างขึ้นใหม่ อีกทั้งได้มีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี พ.ศ.2514 บนพื้นที่จัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ครั้งที่ 1 เนื้อที่ประมาณ 300 ไร่เศษ
แต่เดิมนั้น กรุงเทพมหานคร ได้กำหนดชื่อถนนสายผ่านหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงว่า “ถนนสุขุมวิท 71” ซึ่งเริ่มจากสามแยกพระโขนงถึงเชิงสะพานข้ามคลองแสนแสบ เขตบางกะปิ แต่ยังมีประชาชนบางส่วนที่เรียกชื่อถนนสายนี้ ช่วงสี่แยกคลองตันถึงสะพานข้ามคลองแสนแสบ เขตบางกะปิว่า “ถนนคลองตัน บางกะปิ” ทำให้เกิดความเข้าใจสับสน ต่อมาเมื่อมีการขยายถนนให้กว้างขึ้นพร้อมๆ กับการขยายถนนสายสุขาภิบาล 3 ซึ่งต่อจากถนนสายนี้ไปออกทางเขตมีนบุรี เขตบางกะปิ จึงมีดำริที่จะตั้งชื่อถนนสายนี้ใหม่ และในปี พ.ศ.2523 กรุงเทพมหานคร จึงนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ใช้พระนาม “รามคำแหง” เป็นชื่อถนนจากสุขุมวิท 71 ช่วงตั้งแต่สี่แยกคลองตันตรงไปทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง และไปตามถนนสุขาภิบาล 3 จนจดถนนร่มเกล้า เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ถนนสายประวัติศาสตร์สายนี้ ยังคงมีเรื่องราวผันผ่านไปตามกาลเวลาที่หมุนไปแต่สิ่งหนึ่งที่คงเดิมไม่ เปลี่ยนแปลงคือ ถนนสายการศึกษาเส้นนี้ยังคงเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้ใฝ่รู้ได้ตักตวงนำวิชาความรู้ไปพัฒนาตนเองและประเทศชาติสืบไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณตูบสุดหล่อ เว็บไซต์โพสต์จัง
https://board.postjung.com/1365373
วิธีการเดินทาง
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพ (89/1 อาคาร Sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230) ไปยังจังหวัดปทุมธานี
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตก ไปตามถนนหมายเลข350 วิ่งต่อบนถนนรัชดา-รามอินทรา และ รามอินทรา-นวมินทร์ ผ่านถนนศรีบูรพา และใช้ช่องทางซ้ายเพื่อเลี้ยวขวาแยกบ้านม้า เพื่อเข้าสู่ถนนรามคำแหง และถึงจุดหมายที่ถนนรามคำแหง 68 ระยะทางรวมทั้งสิ้น 8.2 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 20นาที
ติดตั้ง WP-DCPM21-14-72-750 รามคำแหง68 กรุงเทพ มีรายการดังต่อไปนี้
1. แผงโซล่าเซลล์ โมโนคริสตัลไลน์ PERC HALF CELL JA 405 W จำนวน 3 แผง
การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) ตู้กระแสสลับ มิเตอร์วัดกระแสสลับ และหม้อแปลงไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ที่ใช้สารกึ่งตัวนำซิลิคอนที่คนไทยนิยมใช้มีทั้งหมด 3 ชนิดหลัก ดังนี้ โซลาร์เซลล์แบบผลึกเดี่ยว โซล่าเซลล์แบบผลึกรวม โซล่าเซลล์แบบฟิล์มบาง โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
-เป็นพลังงานสะอาด
เพราะได้มาจากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนำมาซึ่งภาวะเรือนกระจก และมลพิษทางอากาศต่างๆ
- เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด
เพราะถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ร่วมกับดวงอาทิตย์และพลังงานธรรมชาติแบบร้อยเปอร์เซนต์ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติและไม่มีวันหมดไป
- ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาด โซล่าเซลล์สามารถช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้ง ช่วยลดค่าไฟฟ้า ช่วยกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือช่วยผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่งสามารถผลิตได้ทุกขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะต้องการมาก หรือน้อย ใช้ในพื้นที่เล็กๆอย่างเช่น บ้าน หรือ พื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เช่นกัน
-ไม่จำเป็นต้องมีระบบส่ง
เพราะโซลาร์เซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในบริเวณที่จะใช้งานได้เลย แตกต่างจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าในระบบปกติที่จะต้องนำส่ง เพราะแหล่งผลิตกับแหล่งใช้งานอยู่คนละที่กัน
-ลดค่าไฟ
สามารถช่วยลดค่าไฟให้กับเราได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการติดตั้งและใช้ระยะเวลาในการคืนทุนสั้น
-เป็นพลังงานทดแทนที่ดี
นอกจากสามารถประหยัดค่าไฟแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือผู้ที่ต้องการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย
ข้อเสีย
- ปริมาณไม่แน่นอน
เพราะกระบวนการผลิตขึ้นอยู่กับความเข้มของพลังงานแสงอาทิตย์หรือสภาพอากาศโดยตรง ถ้าหากวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าเต็มที่ ถ้าหากวันไหนอากาศไม่ดี มีฝนหรือมีหมอก ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าน้อยลง
-พลังงานไม่ค่อยสูง
เพราะความเข้มของพลังงานดวงอาทิตย์ไม่สูงมากนัก ดังนั้น ถ้าหากที่ไหนต้องการปริมาณไฟฟ้ามาก ก็ต้องใช้จำนวนโซลาร์เซลล์และพื้นที่ในการติดตั้งเพิ่มมากขึ้น
- เก็บสะสมไว้ใช้ได้ไม่นาน
เพราะกระบวนการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีแสงเท่านั้น ฉะนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์รองรับเพื่อสลับไปใช้ระบบไฟฟ้าปกติ หรือมีแบตเตอรี่เพื่อเก็บไว้ใช้ยามสำรอง
-ราคา
ราคาค่อนข้างสูงสำหรับการติดตั้งในครั้งแรก
-ใช้พื้นที่เยอะ
ในการติดตั้งแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้พื้นที่สูง เพราะเเผงโซล่าเซลล์1แผง ใช้พื้นที่ประมาณ 1-2ตารางเมตร จึงเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ
2. ตู้พร้อมอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า และระบบตัดต่อ DC จำนวน 1 ตัว
3. ปั๊มน้ำหอยโข่ง 750W แรงดัน 72v ท่อน้ำออก 2 อัตราไหลสูงสุด 21 ลบม/ซม ระยะส่งน้ำสูงสุด 14เมตร จำนวน 1ตัว
-ปั๊มหอยโข่งเป็นปั๊มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นิยมนำมาใช้ในครัวเรือน การเกษตร และอุตสาหกรรม เนื่องจากราคาถูกและสามารถดูแลรักษาได้ง่าย ที่มาของชื่อปั๊มหอยโข่งมาจากการที่ตัวปั๊มจะเหวี่ยงน้ำให้ออกมามีลักษณะคล้ายกับหอยโข่ง
การทำงานของระบบหอยโข่ง จะขับเคลื่อนโดยใบพัด ซึ่งใบพัดจะทำหน้าที่หมุนเพื่อทำงาน และทำให้เกิดแรงเหวี่ยงขึ้นภายในปั๊มดันให้น้ำออกจากปั๊ม และด้วยความที่ปั๊มหอยโข่งมีอัตราการไหลที่เร็วและไหลออกมาในปริมาณที่มาก การควบคุมอัตราการไหลของปั๊มจึงสำคัญ วาวล์บนปั๊มจะช่วยควบคุมอัตราการไหล ไม่ทำให้เกิดแรงดันสะสมในท่อที่มากเกินไป
ข้อดี
-ง่ายต่อการซ่อมบำรุง
ปั๊มหอยโข่งมีส่วนประกอบที่ค่อนข้างน้อย และแต่ละส่วนก็มีอายุการใช้งานที่มไม่เท่ากัน เราจึงสามารถปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเพื่อยืดอายุการใช้งานของปั๊มออกไป
-ราคาถูก
เนื่องจากองค์ประกอบของปั๊มหอยโข่งค่อนข้างน้อย ทำให้ราคาต้นทุนต่ำ ซึ่งยับว่าเป็นผระโยชน์ต่อผู้บริโภคด้วย เพราะจะได้มาในราคาที่จับต้องได้ ช่วยลดต้นทุนได้ดี และยังช่วยประหยัดพื้นที่ได้อีกด้วย
-รองรับการไหลได้ดี
ปั๊มหอยโข่งรับพลังงานโดยตรงมาจากมอเตอร์ เพื่อถ่ายเทในรูปแบบของการเหวี่ยง ทำให้ของเหลวสามารถไหลได้เร็วขึ้น และแรงดันไม่สูงมาก
ข้อเสีย
-ใช้กับของหนืดไม่ได้
เมื่อของเหลวไหลเข้าไปภายในปั๊มหอยโข่ง จะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายที่มากขึ้น ส่งผลให้แรงหมุนเหวี่ยงของปั๊มหอยโข่งมีประสิทธิภาพลดลง และอาจทำให้ตัวปั๊มเสียหาย
-ไม่รองรับระบบที่แรงดันสูง
เพราะปั๊มหอยโข่งมีการออกแบบมาเพื่อ การถ่ายเทพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถูกถ่ายเทไปที่การไหลมากกว่าแรงดัน การที่่ปั๊มหอยโข่งมีหลายใบพัดจะมีส่วนช่วยเพิ่มพลังงานของเหลวมากขึ้น
4.โครงสร้างเหล็กตั้งดินสำหรับติดตั้งแผง จำนวน 3 แผง
ข้อดี
-สร้างได้อย่างรวดเร็ว
-ยืดหยุ่นดัดแปลงได้
-สามารถนำไปขายต่อ เมื่อไม่ต้องการใช้แล้ว
-รับน้ำหนักได้สูง
5.อุปกรณ์การติดตั้ง
5.1 SE-MCB-VA-1000V 16DC-2P จำนวน 1 ตัว
5.2 SE-SPD-HY-1000VDC-2P จำนวน 1ตัว
5.3 SE-FU-CFPV-32-15A จำนวน 1 กล่อง
5.4 SE-FUS-FE-1000V15DC จำนวน 1ตัว
5.5 MC4 จำนวน 2 ตัว
ประโยชน์ที่จะได้รับ
ปัญหาน้ำไม่ไหล แรงดันน้ำไม่เพียงพอจะหมดไปเมื่อมีการติดตั้งระบบปั๊มน้ำ ปั๊มน้ำเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับบุคคลที่ต้องการใช้ในระดับอุตสาหกรรม หรือ ใช้ในเขตครัวเรือน อาคารชุด อาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่น ฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก ดังนั้นการมีถังเก็บน้ำประปาไว้ แล้วใช้ปั๊มน้ำดูดน้ำจากถังเก็บน้ำจ่ายเข้าระบบท่อภายในบ้านอีกทอดหนึ่งจะช่วยทำให้เราสามารถใช้จ่ายน้ำได้ในปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟได้เป็นอย่างดี และยังสามารถใช้งานได้ในเขตพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ไฟฟ้าดับ หรือไฟฟ้าถูกตัดอีกด้วย