ติดตั้งโซลาร์เซลล์ระบบออนกริด ขนาด 10kw อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก มีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
1.แผงโซลาร์เซลล์โมโนคริสตัลไลน์ขนาด 455วัตต์ จำนวน 22 แผง
- โซลาร์เซลล์ ถูกคิดค้นด้วยไอเดียของแชปปิน ,ฟูลเลอร์ และเพียร์สัน โดยสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1954 แล้วจึงค่อยๆถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถนำมาต่อยอดด้านอื่นๆได้มากขึ้น
การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) ตู้กระแสสลับ มิเตอร์วัดกระแสสลับ และหม้อแปลงไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ที่ใช้สารกึ่งตัวนำซิลิคอนที่คนไทยนิยมใช้มีทั้งหมด 3 ชนิดหลัก ดังนี้ โซลาร์เซลล์แบบผลึกเดี่ยว โซล่าเซลล์แบบผลึกรวม โซล่าเซลล์แบบฟิล์มบาง โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
-เป็นพลังงานสะอาด
เพราะได้มาจากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนำมาซึ่งภาวะเรือนกระจก และมลพิษทางอากาศต่างๆ
- เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด
เพราะถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ร่วมกับดวงอาทิตย์และพลังงานธรรมชาติแบบร้อยเปอร์เซนต์ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติและไม่มีวันหมดไป
- ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาด
โซล่าเซลล์สามารถช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้ง ช่วยลดค่าไฟฟ้า ช่วยกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือช่วยผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่งสามารถผลิตได้ทุกขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะต้องการมาก หรือน้อย ใช้ในพื้นที่เล็กๆอย่างเช่น บ้าน หรือ พื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เช่นกัน
-ไม่จำเป็นต้องมีระบบส่ง
เพราะโซลาร์เซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในบริเวณที่จะใช้งานได้เลย แตกต่างจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าในระบบปกติที่จะต้องนำส่ง เพราะแหล่งผลิตกับแหล่งใช้งานอยู่คนละที่กัน
-ลดค่าไฟ
สามารถช่วยลดค่าไฟให้กับเราได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการติดตั้งและใช้ระยะเวลาในการคืนทุนสั้น
-เป็นพลังงานทดแทนที่ดี
นอกจากสามารถประหยัดค่าไฟแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือผู้ที่ต้องการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย
ข้อเสีย
- ปริมาณไม่แน่นอน
เพราะกระบวนการผลิตขึ้นอยู่กับความเข้มของพลังงานแสงอาทิตย์หรือสภาพอากาศโดยตรง ถ้าหากวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าเต็มที่ ถ้าหากวันไหนอากาศไม่ดี มีฝนหรือมีหมอก ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าน้อยลง
-พลังงานไม่ค่อยสูง
เพราะความเข้มของพลังงานดวงอาทิตย์ไม่สูงมากนัก ดังนั้น ถ้าหากที่ไหนต้องการปริมาณไฟฟ้ามาก ก็ต้องใช้จำนวนโซลาร์เซลล์และพื้นที่ในการติดตั้งเพิ่มมากขึ้น
- เก็บสะสมไว้ใช้ได้ไม่นาน
เพราะกระบวนการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีแสงเท่านั้น ฉะนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์รองรับเพื่อสลับไปใช้ระบบไฟฟ้าปกติ หรือมีแบตเตอรี่เพื่อเก็บไว้ใช้ยามสำรอง
ราคา
ราคาค่อนข้างสูงสำหรับการติดตั้งในครั้งแรก
-ใช้พื้นที่เยอะ
ในการติดตั้งแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้พื้นที่สูง เพราะเเผงโซล่าเซลล์1แผง ใช้พื้นที่ประมาณ 1-2ตารางเมตร จึงเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ
2. กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ 5กิโลวัตต์ 1เฟส จำนวน 2ตัว
กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณไฟ ที่ใช้งานร่วมกับระบบโซล่าเซลล์ ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่ได้จากการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยจะทำการซิงโครไนซ์กัน ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ได้จากระบบโซล่าเซลล์ กับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า เมื่อใช้ไฟฟ้าเราก็จะดึงพลังงานกระแสไฟที่เราผลิตได้มาใช้จึงทำให้เราประหยัดและลดค่าใช้จ่าย แถมยังสามารถขายไฟฟ้าที่เราไ่ม่ได้ใช้ทางอ้อมด้วย(กรณีนี้ต้องยื่นเรื่องกับการไฟฟ้าก่อน)
ข้อจำกัดในการใช้งานคือ กริดไทด์อินเวอร์เตอร์จะไม่สามารถใช้งานในช่วงเวลากลางคืน และในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น ไฟดับ อินเวอร์เตอรจะหยุดทำงานทันที แม้ว่าแผงโซล่าเซลล์ยังคงใช้งานอยู่ก็ตาม
ข้อแนะนำการใช้งาน กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ ก่อนจะนำมาใช้งาน ควรคำนวณการใช้ให้เหมาะสมก็จะสามารถช่ยลดค่าไฟภายในบ้านได้ แต่ถ้าคำนวณออกมาได้ไม่เหมาะสม เช่น ถ้าติดตั้งระบบใหญ่เกินไปแต่มีการใช้งานเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้มิเตอร์หมุนย้อนได้
ข้อดี
-แปลงไฟฟ้าได้ไม่ซับซ้อน
-ช่วยลดค่าไฟได้ดี
-รักษาระดับแรงดันให้มีประสิทธิภาพ
-มีความปลอดภัยสูงต่อกการใช้งาน
-ในบางรุ่นสามารถแสดงผลการผลิตไฟฟ้าจากอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนต่างๆได้
ข้อเสีย
-ไม่สามารถใช้งานในเวลากลางคืนได้ หรือ ในเวลาที่ไฟตก ไฟดับ
3.อุปกรณ์กันไฟย้อนมิเตอร์ 1เฟส จำนวน 2ตัว
เป็นอุปกรณ์เสริมที่จะมีส่วนช่วยป้องการเสียหายในวงกว้างได้ดี การติดตั้งอุปกรณ์กันย้อนมีหลักการทำงานคือ จะใช้ตัว ct ตรวจจับกระแสการใช้งานในบ้านทั้งหมด ซึ่งจะค่อนข้างสะดวกสบายเพราะไม่ต้องถอดสายเมนการทำงานคือหากตัว ct ตรวจจับกระแสได้น้อยตัวควบคุมจะสั่งงานให้แผงโซล่าเซลล์จ่ายกระแสไฟฟ้าน้อยลง และจะผลิตกระแสไฟให้สัมพันธ์กับการใช้งานภายในบ้านหรือสถานที่นั้นๆ และถ้าหากมีการใช้กระแสไฟฟ้ามาก ตัวควบคุมก็จะสั่งงานให้รีเลย์จ่ายกระแสไฟเต็มที่ จนทำให้มิเตอร์บริเวณหน้าบ้านหมุนได้ช้าลงหรือหยุดหมุน ช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟได้
4.ตู้ควบคุมการทำงานระบบ พร้อมอุปกรณ์กันไฟกระโชกและอุปกรณ์ตัดต่อระบบ ac/dc จำนวน 2ตัว
-เป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชกที่เหนี่ยวนำเข้ามาในระบบไฟฟ้าแรงต่ำ แบบ 1 เฟส 2 สาย และ 3 เฟส 4 สายที่เกิดจากฟ้าผ่า การลัดวงจรของระบบส่งกำลังไฟฟ้า การปิดเปิดของเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังขนาดใหญ่ และจากสาเหตุอื่นๆ ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ได้รับความเสียหาย รวมถึงผู้ที่ปฏิบัติงานได้รับความปลอดภัยสูงสุด
อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก ที่สามารถป้องกันไฟกระโชกได้มี 2 รูปแบบ ไฟกระโชกแบบช่วงสั้นและไฟกระโชกแบบช่วงยาวอุปกรณ์ป้องกันฯไม่มีผลต่อการกินกระแสไฟฟ้าของโหลด เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต่อขนานกับระบบไฟฟ้าดังนั้นกรณีที่อุปกรณ์ป้องกันฯได้รับความเสียหาย จึงสามารถถอดซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ได้ โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น
5.โครงสร้างอะลูมิเนียมสำหรับติดตั้งแผงบนหลังคาซีแพ็ค จำนวน 1ชุด
5.1 รางอะลูมิเนียม ความยาว 4200มม
5.2 รางอะลูมิเนียม ความยาว 2100 มม
5.3 อุปกรณ์ยึดรางอะลูมิเนียมกับหลังคา
5.4 อุปกรณ์ยึดแผงกับรางอะลูมิเนียม (ระหว่างแผง
5.5 อุปกรณ์ยึดแผงกับรางอะลูมิเนียม (ริมแผง)
5.6 ตัวต่อรางอะลูมิเนียม
-อุปกรณ์จับยึด แผงโซล่าเซลล์ บนหลังคา (Solar Mounting) ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียม และ เหล็กชุบกันสนิม ที่มีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ติดตั้งง่าย มีความแข็งแรงใช้ในงานติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ในแบบต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นติดตั้งบนหลังคากระเบื้อง - เมทัลชีท รวมไปถึงงานติดตั้งบนดาดฟ้าและพื้นดิน
ประโยชน์
การติดตั้งระบบออนกริดเหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการปรับลดอัตราค่าไฟ หรือสำหรับผู้ที่มีความต้องการขายไฟคืนให้กับการการไฟฟ้า ซึ่งการติดตั้งระบบออนกริดสามารถทำได้ทั้งในอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหรรมที่มีอัตราและชั่วโมงการใช้ไฟสูงมากในแต่ละวัน โดยระบบโซล่าเซลล์แบบออนกริด เป็นการเชื่อมต่อสายตรง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ ระบบออนกริดเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ร่วมกับไฟฟ้าหลัก เป็นระบบที่เหมาะแก่การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก โดยหลักการทำงานของของระบบออนกริดคือการนำพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ที่ผลิตได้มาใช้ก่อนนั่นเอง
วิธีการเดินทาง
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (89/1 อาคาร sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230)ไปยังจังหวัดพิษณุโลก
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตก ไปตามถนนหมายเลข 350 เข้าสุ่ซอยนวมินทร์ 74 แยก 1-9 จากนั้นขับต่อบนถนนรัชดา-รามอินทรา ถนนรามอินทรา-นวมินทร์ เพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 350 และเข้าสู่เขตบางปะอิน จากนั้นตัดเข้าถนนหมายเลข 9 และถนนหมายเลข 1 และขับต่อบนถนนหมายเลข 32 ถนนหมายเลข 122 ถนนหมายเลข 117 และถนนหมายเลข 126 ต่อไป จากนั้นจึงเข้าสู่ถนนหมายเลข 12 เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 4027 และถึงที่หมายที่อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลกในที่สุด รวมระยะทางทั้งสิ้น 414 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางราว 5ชั่วโมง 5 นาที
ที่มาและความสำคัญของจังหวัดพิษณุโลก
พิษณุโลกมีประวัติศาสตร์อันยาวนานควบคู่กับประเทศไทย โดยมีชื่อเรียกต่างๆ กันในศิลาจารึก ตำนาน นิทาน และพงศาวดาร เช่น สองแคว สระหลวง สองแควทวิสาขะ ไทยวนที
เดิมเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองเก่าสมัยขอมอยู่ห่างจาก ที่ตั้งเมือง ปัจจุบัน ลงไปทางทิศใต้ ประมาณ 5 กิโลเมตร เรียกว่า" เมืองสองแคว "เหตุที่เรียกเช่นนี้ เพราะตั้ง อยู่ระหว่างแม่น้ำสองสาย คือแม่น้ำน่ากับแม่น้ำแควน้อยแต่ปัจจุบันแม่น้ำแควน้อยเปลี่ยน ทางเดิน ห่างออกจากตัวเมืองไปประมาณ 10 กิโลเมตร ที่ตั้งตัวเมืองเก่าในปัจจุบัน คือ บริเวณ วัดจุฬามณี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของพิษณุโลก ต่อมา เมื่อประมาณพุทธศักราช 1900 สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา(ลิไท) ได้โปรด ให้ย้ายเมืองสองแคว มาตั้งอยู่ ณ บริเวณตัวเมืองในปัจจุบัน และยังคง เรียกกันติดปากว่า เมืองสองแคว เรื่อยมา
สมัยก่อนกรุงสุโขทัย
ก่อนราชวงศ์พระร่วง ซึ่งมีพ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นต้นราชวงศ์ขึ้นครองกรุงสุโขทัย เมื่อปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ราชวงศ์ที่มีอำนาจ ครอบคลุมดินแดนแถบนี้คือ ราชวงศ์ ศรีนาวนำถม พ่อขุนศรีนาวนำถม เสวยราชเมืองเชลียง ตั้งแต่ราว พ.ศ.1762 พระองค์ทรง มีโอรส 2 พระองค์ ได้แก่ พ่อขุนผาเมืองครองเมืองราด และพระยาคำแหงพระราม ครอง เมืองพิษณุโลก ภายหลังพ่อขุนศรีนาวนำถมสิ้นพระชนม์ ขอมสมาดโขนลำพง เข้ายึด เมืองศรีสัชนาลัยสุโขทัยไว้ได้ พ่อขุนผาเมืองและ พระสหาย คือพ่อขุนบางกลางหาว ร่วมกัน ปราบปรามจนได้ชัยชนะ พ่อขุนผาเมือง จึงยกเมืองสุโขทัย ให้ขุนบางกลางหาว
สมัยกรุงสุโขทัย
เมืองสองแคว(พิษณุโลก)อยู่ในอำนาจของราชวงศ์ผาเมือง จนกระทั่งในรัชกาล พ่อขุนรามคำแหงมหาราช จึงได้ยึดเมืองสองแคว ซึ่งเดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณา จักรสุโขทัย ครั้นสมัย พระมหา ธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ได้เสด็จมาประทับทีเมืองสองแคว พระองค์ท่าน ได้เอาพระทัยใส่ทำนุบำรุงนำความเจริญเป็นอย่างยิ่ง เช่น การสร้าง เหมือง ฝาย สนับสนุนให้มีการขยายพื้นที่เพราะปลูก สร้างทางคมนาคม จากเมืองพิษณุโลก ไปเมืองสุโขทัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้มีการสร้าง พระพุทธชินราช พระพุทธชินศรี พระศรีศาสดา เพื่อประดิษฐานไว้ใน พระวิหารพระศรีรัตนมหาธาตุ
สมัยกรุงศรีอยุธยา
พิษณุโลกสมัยอยุธยา มีความสำคัญยิ่งทางด้านการเมือง การปกครองยุทธศาสตร์ เศรษฐกิจ ศาสนาและศิลปวัฒนธรรม พิษณุโลกเป็นราชธานีในรัชสมัยสมเด็จ พระบรม ไตรโลกนาถ ตั้งแต่ พ.ศ.200-2031 รวม 25 ปี นับว่าระยะนี้เป็นยุคทองของ พิษณุโลก
ในสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราช ณ เมืองพิษณุโลก ระหว่าง พ.ศ.2112-2133 ได้ทรงปลุกสำนึกให้ชาวพิษณุโลก เป็นนัก กอบกู้เอกราชเพื่อชาติไทย ทรงสถาปนาพิษณุโลกเป็นเมืองเอก เป็นการประสานต่อ ความเจริญรุ่งเรืองจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน
สมัยกรุงธนบุรี
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงเห็นว่าพิษณุโลกเป็นเมือง ยุทธศาสตร์ ที่สำคัญ ควรมีผู้ที่เข้มแข็ง ที่มีความสามารถเป็นเจ้าเมือง จึงทรงแต่งตั้ง เจ้าพระยายมราช (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท) เป็น "เจ้าพระยา สุรสีห์พิษณุวาธิราช " สำเร็จราชการเมืองพิษณุโลก โดยขึ้น ต่อกรุงธนบุรี เมื่อได้ทรงแต่งตั้ง ผู้ปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือ จนครบถ้วนแล้ว จึงเสด็จกลับ ไปยังกรุงธนบุรี
พ.ศ. 2318 อะแซหวุ่นกี้ แม่ทัพพม่าผู้ชำนาญการรบ ได้วาง แผนยกทัพมาตีหัวเมืองฝ่ายเหนือของไทย ตีได้เมืองตาก เมืองสวรรคโลก บ้านกงธานี และมาพักกองทัพอยู่ที่กรุงสุโขทัย ขณะนั้นเจ้าพระยาจักรี และ เจ้าพระยาสุรสีห์ฯ กำลังยกกองทัพขึ้นไปตีเชียงแสน เมื่อทราบข่าว ข้าศึก จึงรีบยกทัพกับมารับทัพพม่า ที่เมืองพิษณุโลกก่อนที่อะแซหวุ่นกี้ ยกทัพมาตั้งค่ายล้อมเมืองพิษณุโลก กองทัพพม่าพยายามเข้าตีค่ายไทย หฃายครั้งแต่เจ้าพระยาจักรีและเจ้าพระยาสุรสีห์ ได้ช่วยป้องกันเมือง เป็นสามารถ ทั้งที่ทหารน้อยกว่า แต่ไม่สามารถชนะกันได้
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อทราบข่าวอะแซหวุ่นกี้ ยกกองทัพใหญ่ มาตี หัวเมืองฝ่ายเหนือของไทย พระองค์จึง ยกทัพใหญ่ขึ้นไปช่วยหัวเมืองฝ่ายเหนือทันที ฝ่ายอะแซหวุ่นกี้ ทราบข่าวว่ากองทัพไทยมาตั้งค่าย เพื่อช่วยเหลือเมืองพิษณุโลก จึงแบ่งกำลังพลไปตังมั่นที่วัดจุฬามณีฝั่งตะวนตก อะแซหวุ่นกี้ เห็นว่า ถ้าชักช้า ไม่ทันการณ์จึงสั่งให้ทัพพม่าที่กรุงสุโขทัยไปตีเมืองกำแพงเพชร และกองทัพ เมืองกำแพงเพชร ไปตีเมืองนครสวรรค์ และสั่งให้ กองทัพพม่า อีกกองหนึ่งยก ไปตีกรุงธนบุรี การวางแผนของอะแซหวุ่นกี้ เช่นนี้ เป็นการตัดกำลังฝ่ายไทย ไม่ให้ช่วยเมืองพิษณุโลก และต้องการให้ กองทัพไทยระส่ำระสาย
ในที่สุดสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงมีพระราชดำริ เห็นว่า ไทยเสียเปรียบ เพราะมีกำลังทหารน้อยกว่า จึงควรถอยทัพกลับไป ตั้งมั่นรับทัพพม่าที่กรุงธนบุรี เจ้าพระยาจักรีเห็นว่าไทยขาดเสบียงอาหาร และใก้ลจะหมดทางสู้ จึงตัดสินใจ พาไพร่พลและประชาชนชายหญิง ทั้งหมดตีหักค่ายพม่า ออกจากเมืองพิษณุโลก ไปทางทิศตะวัออก ได้ สำเร็จพาทัพผ่านบ้านมุง บ้านดงชมพู ข้ามเขาบรรทัด ไปตั้งรวมรี้พลอยู่ที่ เมืองเพชรบูรณ์พม่าล้อมเมืองพิษณุโลก นาน ถึง 4 เดือน เมื่อเข้าเมืองได้ ก็พบแต่เมืองร้าง อะแซหวุ่นกี้จึงสั่งเผาผลาญทำลาย บ้านเมือง พิษณุโลกพินาถจน หมดสิ้น คงเหลือเฉพาะวัดพระศรีรัตนมหาธาตุเท่านั้น
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้น ตั้งแต่ช่วงพระบาทสมเด็จ พระพุทธ ยอดฟ้าจุฬาโลก จนถึงก่อนปฏิรูปการปกครองในสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ยังคงจัดระเบียบ การปกครองออก เป็นจตุสดมภ์ แต่ในส่วนภูมิภาค มีการ แบ่งเขต การปกครองเป็นหัวเมืองชั้นใน หัวเมืองชั้นนอก และเป็นประเทศราช
เมืองพิษณุโลกมีฐานะเป็นเมืองเอก ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในหัวเมืองฝ่ายเหนือ ของประเทศไทย มีประชากรทั้งสิ้น ประมาณ 15,000 คน ซึ่งมีชาวจีนประมาณ 1,112 คน และมีเมืองต่างๆ อยู่ใน อำนาจการปกครองดูแล หลายหัวเมืองด้วยกัน เช่น เมือง นครไทย ไทยบุรี ศรีภิรมย์ พรหมพิราม ชุมสรสำแดง ชุมแสงสงคราม พิพัฒน์ นครชุม ทศการ นครพามาก เมืองการ เมืองคำ
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักงานจังหวัดพิษณุโลก
http://www.phitsanulok.go.th/data11.htm