ประวัติและที่มาของอำเภอบางพลี
บางพลี เป็นอำเภอที่มีพื้นที่มากที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีพื้นที่ทั้งหมด260.0 ตร.กมมีประชากรในพื้นที่ราวๆทั้งหมด 279,453 คน
มีอาณาเขตดังต่อไปนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับเขตลาดกระบัง (กรุงเทพมหานคร) มีแนวแบ่งเขตการปกครองระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดสมุทรปราการ คลองลาดกระบัง และแนวแบ่งเขตการปกครองระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดสมุทรปราการ เป็นเส้นแบ่งเขต ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอบางเสาธง มีถนนเข้าวัดหัวคู้ คลองหนองงูเห่า คลองบางนา ถนนวัดศรีวารีน้อย คลองเสาระหงษ์ คลองสำโรง คลองโก่งประทุน คลองลาดหวาย และคลองสี่ศอกเป็นเส้นแบ่งเขต ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอบางบ่อและอำเภอเมืองสมุทรปราการ มีคลองโก่งประทุนและคลองสามเป็นเส้นแบ่งเขต ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเมืองสมุทรปราการ เขตบางนา และเขตประเวศ (กรุงเทพมหานคร) มีคลองบางเหี้ยน้อย คลองบางกระบือ คลองกู้พารา คลองทับนาง คลองสำโรง ถนนศรีนครินทร์ คลองหนองกระทุ่ม คลองบางนา (สาหร่าย) คลองหนองตาดำ คลองปลัดเปรียง คลองต้นตาล แนวคันนาแบ่งเขตระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดสมุทรปราการ คลองสลุด คลองปากน้ำ คลองสิงห์โต คลองขันแตก และคลองตาพุกเป็นเส้นแบ่งเขต
คำว่า “บางพลี” เป็นชื่ออำเภอบาประวัติความเป็นมาของอำเภอบางพลีงพลีในจังหวัดสมุทรปราการ นั้นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เป็นสองนัย คือ เมื่อพ.ศ. 2041 ในสมัยรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ได้โปรดเกล้าให้ขุดคลองสำโรงขึ้นและได้พบเทวรูปสำริด 2 องค์ ที่คลองทับนาง มีจารึกชื่อว่า “พญาแสนตา” กับ “บาทสังขรณ์” พระองค์จึงได้จัดทำพิธีบวงสรวงสังเวยเทวรูปนั้น สถานที่ที่ทำพิธีบวงสรวงจึงเรียกว่า “บัตรพลี” นานๆ เข้าจึงเพี้ยนเป็น “บางพลี”
ส่วนข้อสันนิษฐานอีกประเด็นหนึ่ง คือกล่าวกันว่า เมื่อ พ.ศ. 2136 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ยกทัพขับไล่ข้าศึกมาทางทิศตะวันออกของกรุงศรีอยุธยามาถึงยังตำบล หนึ่งซึ่งไม่ปรากฏนาม ณ ที่แห่งนั้น พระองค์สั่งให้หยุดทัพพักไพร่พลและในช่วงเวลาพักนั้น พระองค์ได้ประหารชีวิตทหารคนหนึ่งที่คิดคดทรยศต่อพระองค์ได้จัดทำพิธีบวงสรวง ปลูกสร้างศาลเพียงตาพร้อมทั้งเครื่องเซ่นสังเวยประดามี และทรงตั้งจิตอธิษฐานต่อเทวาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าถ้าพระองค์มีบุญญาธิการสามารถปกครองไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินให้มีความสุขร่มเย็นแล้ว ขอให้พระองค์มีชัยชนะแก่อริราชศัตรูทั้งมวลแล้วจึงได้ประหารชีวิติทหารผู้นั้น ส่วนการศึกสงครามในครั้งนั้นพระองค์ก็ประสพชัยชนะอย่างเด็ดขาด สถานที่ที่พระองค์กระทำพิธีกรรมบวงสรวงนั้น ชาวบ้านจึงเรียกว่า “บางพลี”
ประชากรในอำเภอนี้ล้วนประกอบอาชีพหลักคือด้านการเกษตร การเลี้ยงปลา การทำไร่สวน และอุตสาหกรรมเป็นหลัก และมีผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ปลาสลิด มะม่วงน้ำดอกไม้ พืชสวนครัวต่างๆ นั่นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : วิกิพีเดีย
วิธีการเดินทาง
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (89/1 อาคาร sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230)ไปยังอำเภอบางพลี
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตก ไปตามซอยนวมินทร์ 74 แยก 1-9 เพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 350 จากนั้นกลับรถเพื่อวิ่งบนถนนรามอินทรา ถนนหมายเลข 3901 และใช้ทางลาดไปถนนบางนา ถนนหมายเลข9 เพื่อเข้าสู่ชลบุรี และวิ่งต่อบนทางคู่ขนานบางนา-ตราด ก่อนจะตัดเข้าสู่ถนนหมายเลข 34 และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่หมู่บ้านกรีนวัลเล่ เมื่อถึงวงเวียนให้ใช้ช่องทางที่2 แล้งเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่อำเภอบางพลีต่อไป โดยระยะทางรวมแล้ว 36กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 40นาที
ติดตั้งโซลาร์เซลล์ระบบออฟกริด อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
1.แผงโซลาร์เซลล์โพลีคริสตัลไลน์ 350วัตต์ จำนวน 2 แผง
- โซลาร์เซลล์ ถูกคิดค้นด้วยไอเดียของแชปปิน,ฟูลเลอร์ และเพียร์สัน โดยสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1954 แล้วจึงค่อยๆถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถนำมาต่อยอดด้านอื่นๆได้มากขึ้น
การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) ตู้กระแสสลับ มิเตอร์วัดกระแสสลับ และหม้อแปลงไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ที่ใช้สารกึ่งตัวนำซิลิคอนที่คนไทยนิยมใช้มีทั้งหมด 3 ชนิดหลัก ดังนี้ โซลาร์เซลล์แบบผลึกเดี่ยว โซล่าเซลล์แบบผลึกรวม โซล่าเซลล์แบบฟิล์มบาง โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
-เป็นพลังงานสะอาด
เพราะได้มาจากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนำมาซึ่งภาวะเรือนกระจก และมลพิษทางอากาศต่างๆ
- เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด
เพราะถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ร่วมกับดวงอาทิตย์และพลังงานธรรมชาติแบบร้อยเปอร์เซนต์ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติและไม่มีวันหมดไป
- ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาด
โซล่าเซลล์สามารถช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้ง ช่วยลดค่าไฟฟ้า ช่วยกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือช่วยผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่งสามารถผลิตได้ทุกขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะต้องการมาก หรือน้อย ใช้ในพื้นที่เล็กๆอย่างเช่น บ้าน หรือ พื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เช่นกัน
-ไม่จำเป็นต้องมีระบบส่ง
เพราะโซลาร์เซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในบริเวณที่จะใช้งานได้เลย แตกต่างจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าในระบบปกติที่จะต้องนำส่ง เพราะแหล่งผลิตกับแหล่งใช้งานอยู่คนละที่กัน
-ลดค่าไฟ
สามารถช่วยลดค่าไฟให้กับเราได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการติดตั้งและใช้ระยะเวลาในการคืนทุนสั้น
-เป็นพลังงานทดแทนที่ดี
นอกจากสามารถประหยัดค่าไฟแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือผู้ที่ต้องการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย
ข้อเสีย
- ปริมาณไม่แน่นอน
เพราะกระบวนการผลิตขึ้นอยู่กับความเข้มของพลังงานแสงอาทิตย์หรือสภาพอากาศโดยตรง ถ้าหากวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าเต็มที่ ถ้าหากวันไหนอากาศไม่ดี มีฝนหรือมีหมอก ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าน้อยลง
-พลังงานไม่ค่อยสูง
เพราะความเข้มของพลังงานดวงอาทิตย์ไม่สูงมากนัก ดังนั้น ถ้าหากที่ไหนต้องการปริมาณไฟฟ้ามาก ก็ต้องใช้จำนวนโซลาร์เซลล์และพื้นที่ในการติดตั้งเพิ่มมากขึ้น
- เก็บสะสมไว้ใช้ได้ไม่นาน
เพราะกระบวนการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีแสงเท่านั้น ฉะนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์รองรับเพื่อสลับไปใช้ระบบไฟฟ้าปกติ หรือมีแบตเตอรี่เพื่อเก็บไว้ใช้ยามสำรอง
-ราคา
ราคาค่อนข้างสูงสำหรับการติดตั้งในครั้งแรก
-ใช้พื้นที่เยอะ
ในการติดตั้งแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้พื้นที่สูง เพราะเเผงโซล่าเซลล์1แผง ใช้พื้นที่ประมาณ 1-2ตารางเมตร จึงเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ
2. ตู้ควบคุมการทำงานพร้อมอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า และอุปกรณ์ตัดต่อวงจร
ตู้ควบคุมระบบการทำงาน ป้องกันระบบโซล่าเซลล์จากไฟฟ้าทั้งด้านที่มาจาก แผงโซล่าเซลล์ และไฟฟ้าที่มาจากไฟฟ้าของการไฟฟ้าโดยมีตัวป้องกันไฟช็อต เปิดปิดระบบทั้งสองด้าน มีระบบป้งกันฟ้าผ่า สำหรับ 1เฟส และ 3 เฟส ซึ่งจะทำให้ระบบโซล่าเซลล์ไม่เสียหาย หรือเสียหายน้อยที่สุด
3.เครื่องควบคุมประจุแบตเตอรี่PWM 30A 12/24V จำนวน 1 ตัว
อินเวอร์เตอร์เเบบ PWM คืออินเวอร์เตอร์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้ากระแสตรงที่มีค่าคงที่ให้เป็นกระแสไฟฟ้าแบบสลับ ที่ปรับค่าความถี่และเเรงเคลื่อนผ่านรูปแบบของสวิสต์ อินเวอร์เตอร์ชนิดนี้ยังสามารถปรับแรงเคลื่อนของไฟฟ้าและความถี่เอาท์พุตอีกด้วย
4.แบตเตอรี่โซลาร์เซลล์ ชนิดเติมน้ำกลั่น 135AH 12V จำนวน 4ตัว
แบตเตอรี่ประเภทนี้ เป็นแบบที่ใช้กันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแบตเตอรี่ชนิดเติมน้ำกลั่นเป็นแบตเตอรี่ประเภทตะกั่วกรด มีสารละลายอิเล็กโตรไลท์เป็นของเหลว ทำให้ต้องมีการเติมน้ำกลั่น เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป
แบตเตอรี่ชนิดนี้ก็ไม่ต่างจากแบตเตอรี่แบบแห้ง สิ่งที่ต่างก็เป็นเพียง แบตประเภทนี้จะใช้อีเล็กโตรไลท์หรือกรดซัลฟุริคเจือจางด้วยน้ำกลั่นบรรจุอยู่ . เนื่องจากแบตเตอรี่ทั้งสองชนิดมีการใช้วัสดุที่มาทำแผ่นธาตุแตกต่างกัน
5.อินเวอร์เตอร์ PSW แบบขดลวด1000w 24v จำนวน 1 ตัว
อินเวอร์เตอร์ (Inverter) จะมีหน้าที่แปลงไฟกระแสสลับ (AC) จากแหล่งจ่ายไฟทั่วไปที่มีแรงดันและความถี่คงที่ ให้เป็นไฟกระแสตรง (DC) โดยวงจรคอนเวอร์เตอร์ ( ConverterCircuit )จากนั้นไฟกระแสตรงจะถูกแปลงเป็นไฟกระแสสลับที่สามารถปรับขนาดแรงดันและความถี่ได้โดยวงจรอินเวอร์เตอร์ (Inverter Circuit) วงจรทั้งสองนี้จะเป็นวงจรหลักที่ทำหน้าที่แปลงรูปคลื่น และผ่านพลังงานของอินเวอร์เตอร์
ข้อดีของอินเวอร์เตอร์แบบขดลวด
- รองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นขดลวดไฟฟ้าได้ดี
- รองรับ AC ชาร์จที่กระแสสูงสุด
-ป้องกันไฟตกต่ำสุดที่ 140 โวลล์ และไฟกระชากสูงสุดที่ 275 โวลล์
-มีระบบตัดการทำงานเมื่อใช้งานเกินขีดจำกัด
- มีระบบป้องกันไฟย้อนกลับ
-มีระบบความคุมแรงดันและอุณหภูมิ
-มีพัดลมระบายความร้อน
-สามารถบอกสถานะแบตเตอรี่, เปอร์เซ็นโหลด, โวลล์อินพุต/เอาต์พุตได้
6.ชุดสายไฟโซลาร์เซลล์พร้อมข้อต่อสายไฟ (ต่อตรง/ต่อขนาน)สำหรับต่อวงจรโซลาร์เซลล์ จำนวน 1 ชุด
7.โครงสร้างอะลูมิเนียมสำหรับติดตั้งบนหลังคาเมทัลชีท จำนวน 2แผง
7.1รางอะลูมิเนียม ความยาว 4200มม
7.2 รางอะลูมิเนียม ความยาว 2100 มม
7.3อุปกรณ์ยึดรางอะลูมิเนียมกับหลังคาเมทัลชีท
7.4อุปกรณ์ยึดแผงกับรางอะลูมิเนียม (ระหว่างแผง)
7.5 อุปกรณ์ยึดแผงกับรางอะลูมิเนียม (ริมแผง)
7.6 ตัวต่อรางอะลูมิเนียม
ประโยชน์
การติดตั้งระบบออนกริดเหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการปรับลดอัตราค่าไฟ หรือสำหรับผู้ที่มีความต้องการขายไฟคืนให้กับการการไฟฟ้า ซึ่งการติดตั้งระบบออนกริดสามารถทำได้ทั้งในอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหรรมที่มีอัตราและชั่วโมงการใช้ไฟสูงมากในแต่ละวัน โดยระบบโซล่าเซลล์แบบออนกริด เป็นการเชื่อมต่อสายตรง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ ระบบออนกริดเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ร่วมกับไฟฟ้าหลัก เป็นระบบที่เหมาะแก่การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก โดยหลักการทำงานของของระบบออนกริดคือการนำพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ที่ผลิตได้มาใช้ก่อนนั่นเอง