ที่มาและความสำคัญของเขตบางขุนเทียน
ชื่อ ”บางขุนเทียน” เล่ากันว่า ในสมัยก่อนการเดินทางบกต้องใช้เกวียนเป็นหลัก โดยในแต่ละกองเกวียนจะต้องมี “ขุน” คอยเป็นบอดี้การ์ด รักษาความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งสินค้า โดยในอดีตพื้นที่แถบนี้เป็นที่หยุดพักของกองเกวียนเป็นประจำ ชาวบ้านจึงได้พากันเรียกว่า บางขุนเกวียน แต่ในความเป็นจริงชาวบ้านออกเสียงว่า บางขุนเกียน แล้วเพี้ยนมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น “บางขุนเทียน” ในปัจจุบัน
บางขุนเทียนถือได้ว่าเป็นชุมชนโบราณ โดยในอดีต “คลองด่าน” ถือเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ คือเป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าและอาหาร และเป็นเส้นทางเดินทัพในสมัยโบราณ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวบ้านอพยพเข้ามาอยู่ริมคลองและกลายเป็นชุมชนอย่างเช่นในปัจจุบัน หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่นับว่าเก่าแก่ที่สุดที่เอ่ยชื่อบางขุนเทียน ปรากฏอยู่ใน “นิราศนรินทร์” ของนายนรินทรธิเบศร์ มหาดเล็กพระราชวังบวร แต่งขึ้นคราวตามเสด็จสมเด็จบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์เสด็จยกกองทัพหลวงไปรบพม่าซึ่งยกเข้ามาตีเมืองถลางและเมืองชุมพร ประมาณปี พ.ศ. 2352 ช่วงต้นรัชกาลที่ 2 โดยมีเนื้อหาดังนี้
บางขุนเทียน ถิ่นบ้าน นามมี
ต่อมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณปี พ.ศ. 2481-2492 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ “บางขุนเทียน” โดยในช่วงนั้นรัฐบาลได้ออกพระราชกฤษฎีกาจัดสรรที่ดินในเขตจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ และอำเภอบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เพื่อให้ราษฎรเข้ามาทำกินครอบครัวละไม่เกิน 50 ไร่ จัดตั้งหน่วยงานราชการขึ้น 2 แห่ง คือ หน่วยนิคมสหกรณ์โคกขามและหน่วยนิคมสหกรณ์บ้านไร่ สนับสนุนในด้านการคมนาคม มีการขุดคลอง เช่น คลองโล่ง คลองพิทยาลงกรณ์ สร้างถนน เช่น ถนนพระรามที่ 2 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล จากการสนับสนุนของทางราชการนี้เองที่ทำให้บางขุนเทียน ผันตัวเองจากชุมชนชนบทกลายมาเป็นชุมชนชานเมืองอย่างเช่นในปัจจุบัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://lovemangroveteam.wordpress.com
วิธีการเดินทาง
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (89/1 อาคาร sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230)ไปยังเขตบางขุนเทียน
มุ่งหน้าทางทิศตะวันตกไปตามถนนหมายเลข 350 และถนนหมายเลข 351 ผ่านถนนคลองลำเจียก ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ถนนพระรามสี่-เอกมัย ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ผ่านทางพิเศษฉลองรัช และมุ่งหน้าเข้าสู่เขตดินแดง ดาวคะนองและแจ้งวัฒนะ แล้วขับต่อเนื่องบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร และถนนหมายเลข 35 ก่อนที่จะเข้าสู่เขตบางขุนเทียนตามเป้าหมาย ระยะทางทั้งสิ้นรวมแล้ว 44กิโลเมตร และใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น55นาที
ติดตั้งโซลาร์เซลล์ระบบออนกริด 5kw invt Huawei บางขุนเทียน กรุงเทพมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
1 แผงโซลาร์เซลล์โมโนคริสตัลไลน์ 535วัตต์ จำนวน 10แผง
- โซลาร์เซลล์ ถูกคิดค้นด้วยไอเดียของแชปปิน,ฟูลเลอร์ และเพียร์สัน โดยสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1954 แล้วจึงค่อยๆถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถนำมาต่อยอดด้านอื่นๆได้มากขึ้น
การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) ตู้กระแสสลับ มิเตอร์วัดกระแสสลับ และหม้อแปลงไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ที่ใช้สารกึ่งตัวนำซิลิคอนที่คนไทยนิยมใช้มีทั้งหมด 3 ชนิดหลัก ดังนี้ โซลาร์เซลล์แบบผลึกเดี่ยว โซล่าเซลล์แบบผลึกรวม โซล่าเซลล์แบบฟิล์มบาง โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
-เป็นพลังงานสะอาด
เพราะได้มาจากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนำมาซึ่งภาวะเรือนกระจก และมลพิษทางอากาศต่างๆ
- เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด
เพราะถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ร่วมกับดวงอาทิตย์และพลังงานธรรมชาติแบบร้อยเปอร์เซนต์ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติและไม่มีวันหมดไป
- ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาด
โซล่าเซลล์สามารถช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้ง ช่วยลดค่าไฟฟ้า ช่วยกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือช่วยผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่งสามารถผลิตได้ทุกขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะต้องการมาก หรือน้อย ใช้ในพื้นที่เล็กๆอย่างเช่น บ้าน หรือ พื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เช่นกัน
-ไม่จำเป็นต้องมีระบบส่ง
เพราะโซลาร์เซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในบริเวณที่จะใช้งานได้เลย แตกต่างจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าในระบบปกติที่จะต้องนำส่ง เพราะแหล่งผลิตกับแหล่งใช้งานอยู่คนละที่กัน
-ลดค่าไฟ
สามารถช่วยลดค่าไฟให้กับเราได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการติดตั้งและใช้ระยะเวลาในการคืนทุนสั้น
-เป็นพลังงานทดแทนที่ดี
นอกจากสามารถประหยัดค่าไฟแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือผู้ที่ต้องการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย
ข้อเสีย
- ปริมาณไม่แน่นอน
เพราะกระบวนการผลิตขึ้นอยู่กับความเข้มของพลังงานแสงอาทิตย์หรือสภาพอากาศโดยตรง ถ้าหากวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าเต็มที่ ถ้าหากวันไหนอากาศไม่ดี มีฝนหรือมีหมอก ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าน้อยลง
-พลังงานไม่ค่อยสูง
เพราะความเข้มของพลังงานดวงอาทิตย์ไม่สูงมากนัก ดังนั้น ถ้าหากที่ไหนต้องการปริมาณไฟฟ้ามาก ก็ต้องใช้จำนวนโซลาร์เซลล์และพื้นที่ในการติดตั้งเพิ่มมากขึ้น
- เก็บสะสมไว้ใช้ได้ไม่นาน
เพราะกระบวนการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีแสงเท่านั้น ฉะนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์รองรับเพื่อสลับไปใช้ระบบไฟฟ้าปกติ หรือมีแบตเตอรี่เพื่อเก็บไว้ใช้ยามสำรอง
-ราคา
ราคาค่อนข้างสูงสำหรับการติดตั้งในครั้งแรก
-ใช้พื้นที่เยอะ
ในการติดตั้งแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้พื้นที่สูง เพราะเเผงโซล่าเซลล์1แผง ใช้พื้นที่ประมาณ 1-2ตารางเมตร จึงเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ
2กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ 10k 3p 380v จำนวน 1 ตัว
กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณไฟ ที่ใช้งานร่วมกับระบบโซล่าเซลล์ ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่ได้จากการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยจะทำการซิงโครไนซ์กัน ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ได้จากระบบโซล่าเซลล์ กับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า เมื่อใช้ไฟฟ้าเราก็จะดึงพลังงานกระแสไฟที่เราผลิตได้มาใช้จึงทำให้เราประหยัดและลดค่าใช้จ่าย แถมยังสามารถขายไฟฟ้าที่เราไ่ม่ได้ใช้ทางอ้อมด้วย(กรณีนี้ต้องยื่นเรื่องกับการไฟฟ้าก่อน)
ข้อจำกัดในการใช้งานคือ กริดไทด์อินเวอร์เตอร์จะไม่สามารถใช้งานในช่วงเวลากลางคืน และในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น ไฟดับ อินเวอร์เตอรจะหยุดทำงานทันที แม้ว่าแผงโซล่าเซลล์ยังคงใช้งานอยู่ก็ตาม
ข้อแนะนำการใช้งาน กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ ก่อนจะนำมาใช้งาน ควรคำนวณการใช้ให้เหมาะสมก็จะสามารถช่ยลดค่าไฟภายในบ้านได้ แต่ถ้าคำนวณออกมาได้ไม่เหมาะสม เช่น ถ้าติดตั้งระบบใหญ่เกินไปแต่มีการใช้งานเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้มิเตอร์หมุนย้อนได้
ข้อดี
-แปลงไฟฟ้าได้ไม่ซับซ้อน
-ช่วยลดค่าไฟได้ดี
-รักษาระดับแรงดันให้มีประสิทธิภาพ
-มีความปลอดภัยสูงต่อกการใช้งาน
-ในบางรุ่นสามารถแสดงผลการผลิตไฟฟ้าจากอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนต่างๆได้
ข้อเสีย
-ไม่สามารถใช้งานในเวลากลางคืนได้ หรือ ในเวลาที่ไฟตก ไฟดับ
3อุปกรณ์กันไฟย้อนมิเตอร์ 3เฟส จำนวน 1ตัว
เป็นอุปกรณ์เสริมที่จะมีส่วนช่วยป้องการเสียหายในวงกว้างได้ดี การติดตั้งอุปกรณ์กันย้อนมีหลักการทำงานคือ จะใช้ตัว ct ตรวจจับกระแสการใช้งานในบ้านทั้งหมด ซึ่งจะค่อนข้างสะดวกสบายเพราะไม่ต้องถอดสายเมนการทำงานคือหากตัว ct ตรวจจับกระแสได้น้อยตัวควบคุมจะสั่งงานให้แผงโซล่าเซลล์จ่ายกระแสไฟฟ้าน้อยลง และจะผลิตกระแสไฟให้สัมพันธ์กับการใช้งานภายในบ้านหรือสถานที่นั้นๆ และถ้าหากมีการใช้กระแสไฟฟ้ามาก ตัวควบคุมก็จะสั่งงานให้รีเลย์จ่ายกระแสไฟเต็มที่ จนทำให้มิเตอร์บริเวณหน้าบ้านหมุนได้ช้าลงหรือหยุดหมุน ช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟได้
4อุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต อินเวอร์เตอร์ จำนวน 1ตัว
-เป็นระบบตรวจวัดและเก็บข้อมูลในระยะไกลที่สามารถแสดงผลผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟนได้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ตอบโจทย์และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ติดตั้งที่จะสามารถตรวจสอบ ตรวจเช็คได้ ซึ่งข้อมูลที่แสดงผลเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งจะแสดงทั้งค่ารังสีของพลังงานเเสงอาทิตย์ ค่าอุณหภูมิ และค่าอื่นๆทางไฟฟ้า
5ตู้ควบคุมการทำงานระบบพร้อมอุปกรณ์ป้องกันไฟและอุปกรณ์ตัดต่อระบบ จำนวน1 ตัว
ตู้ควบคุมระบบการทำงาน ป้องกันระบบโซล่าเซลล์จากไฟฟ้าทั้งด้านที่มาจาก แผงโซล่าเซลล์ และไฟฟ้าที่มาจากไฟฟ้าของการไฟฟ้าโดยมีตัวป้องกันไฟช็อต เปิดปิดระบบทั้งสองด้าน มีระบบป้งกันฟ้าผ่า สำหรับ 1เฟส และ 3 เฟส ซึ่งจะทำให้ระบบโซล่าเซลล์ไม่เสียหาย หรือเสียหายน้อยที่สุด
6 Mounting system โครงสร้างอะลูมิเนียม สำหรับติดตั้งแผงบนหลังคาซีแพ็ค จำนวน 1ตัว
6.1 รางอะลูมิเนียม ความยาว 4200มม จำนวน 4ตัว
6.2 อุปกรณ์ยึดแผงกับรางอะลูมิเนียม (ริมแผง) จำนวน 4ตัว
6.3 อุปกรณ์ยึดแผงกับรางอะลูมิเนียม (ระหว่างแผง)จำนวน 18ตัว
6.4 อุปกรณ์ยึดรางอะลูมิเนียมกับหลังคาซีแพ็ค จำนวน 12ตัว
6.5 รางอะลูมิเนียม ความยาว 2100 มม จำนวน 2ตัว
ประโยชน์
การติดตั้งระบบออนกริดเหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการปรับลดอัตราค่าไฟ หรือสำหรับผู้ที่มีความต้องการขายไฟคืนให้กับการการไฟฟ้า ซึ่งการติดตั้งระบบออนกริดสามารถทำได้ทั้งในอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหรรมที่มีอัตราและชั่วโมงการใช้ไฟสูงมากในแต่ละวัน โดยระบบโซล่าเซลล์แบบออนกริด เป็นการเชื่อมต่อสายตรง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ ระบบออนกริดเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ร่วมกับไฟฟ้าหลัก เป็นระบบที่เหมาะแก่การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก โดยหลักการทำงานของของระบบออนกริดคือการนำพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ที่ผลิตได้มาใช้ก่อนนั่นเอง