ประวัติและที่มาของจังหวัดฉะเชิงเทรา
ฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อกับกรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดสระแก้ว จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงมีอาณาเขตติดกับอ่าวไทย
ที่มาของคำว่า "ฉะเชิงเทรา" มีข้อสันนิษฐานที่แตกต่างกัน 2 ข้อ คือ คำว่า ฉะเชิงเทรา มาจากคำภาษาเขมร 2 คำ คือ สทึง+เจรา ซึ่ง สทึง (ស្ទឹង) แปลว่า แม่น้ำสายย่อย และ เจรา (ជ្រៅ) แปลว่า ลึก เมื่อรวมความหมายก็ได้ว่า แม่น้ำลึก ซึ่งหมายถึงแม่น้ำบางปะกงนั่นเอง (มีผู้โต้แย้งข้อสันนิษฐานนี้ เนื่องจากว่าเมืองฉะเชิงเทรานั้นตั้งขึ้นมาในสมัยเดียวกับเมืองสาครบุรี เมืองนครไชยศรี และเมืองนนทบุรี ซึ่งไม่น่าจะมีคำเขมรมาปนอยู่ในชื่อเมืองแล้ว) และคำว่า ฉะเชิงเทรา อาจเพี้ยนมาจากคำว่า แสงเชรา แสงเซา หรือ แซงเซา (ข้อสันนิษฐานนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน)
พ.ศ. 1000 มีชุมชนบ้านเมืองโบราณบริเวณสองฝั่งคลองลำน้ำท่าลาด หรือคลองท่าลาด ที่ไหลผ่านอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา หลายแห่งตั้งแต่บ้านเกาะขนุน ถึงบ้านท่าเกวียน ฯลฯ หลังพ.ศ. 1500 ฉะเชิงเทราและดินแดนใกล้เคียงคือ เมืองมโหสถ (อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี) กับเมืองพระรถ (อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี) ต่างรุ่งเรืองขึ้นจากการค้าโลก และมีความเกี่ยวข้องเป็นเครือญาติกับกษัตริย์ขอมทั้งเมืองละโว้ (ลพบุรี) และเมืองพระนคร (กัมพูชา) จนหลังหลัง พ.ศ. 1700 บริเวณลุ่มน้ำบางปะกง ตั้งแต่เขตฉะเชิงเทราถึงปราจีนบุรีกลายเป็นป่าดง เนื่องจากเป็นที่ดอนมากขึ้นจากทับถมของตะกอนปากแม่น้ำ ส่งผลให้เส้นทางคมนาคมออกอ่าวไทยไม่ค่อยสะดวกเช่นเดิม จนหลัง พ.ศ. 2000 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โปรดให้ซ่อมแปลงคลองสำโรง ซึ่งเชื่อมแม่น้ำบางปะกง กับแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้สะดวกในการคมนาคม
ในสมัยรัชกาลที่ 3 หลังปี พ.ศ. 2369 ทรงยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ ได้มีการกวาดต้อนครัวลาวพวกหนึ่งมาอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำบางปะกง เกิดเมืองใหม่ชื่อ เมืองฉะเชิงเทรา แต่ปากชาวบ้านเรียกชื่อเดิมที่มีมาก่อนว่า เมืองแปดริ้ว (ปัจจุบันคือ อำเภอบางคล้า) มีการสร้างป้อมเมืองฉะเชิงเทราเพื่อป้องกันศึกญวนและเขมรที่มาทางแม่น้ำบางปะกง และอ่าวไทย ราวปี พ.ศ. 2377 ต่อมา พ.ศ. 2381 ให้อพยพครอบครัวเจ้าองค์ด้วง แห่งกัมพูชา เข้ากรุงเทพฯ ส่วนบ่าวไพร่ทั้งหลายให้อยู่เมืองฉะเชิงเทรา (บริเวณ ชุมชนวัดดอนทอง ปากคลองบางตีนเป็ด ตรงข้ามอำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา)
ในสมัยรัชกาลที่ 4 โปรดให้ยกบ้านท่าถ่านเป็นเมืองพนมสารคาม (อำเภอพนมสารคาม) และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ปี พ.ศ. 2459 โปรดให้เมืองฉะเชิงเทรากับเมืองพนมสารคาม รวมกันสถาปนาเป็น จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ขอบคุณข้อมูลจาก : วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%89%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2
วิธีการเดินทาง
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (89/1 อาคาร sunnergy tower ถนนรัชดา-รามอินทรา คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230)ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา
ติดตั้งโซลาร์เซลล์ระบบออนกริด ขนาด 5kw 1P จังหวัดฉะเชิงเทรา มีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้
1 แผงโซล่าเซลล์โมโนคริสตัลไลน์ mono half self 450 วัตต์ จำนวน 11 แผง
- โซลาร์เซลล์ ถูกคิดค้นด้วยไอเดียของแชปปิน,ฟูลเลอร์ และเพียร์สัน โดยสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1954 แล้วจึงค่อยๆถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถนำมาต่อยอดด้านอื่นๆได้มากขึ้น
การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะต้องประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (อินเวอร์เตอร์) ตู้กระแสสลับ มิเตอร์วัดกระแสสลับ และหม้อแปลงไฟฟ้า โซลาร์เซลล์ที่ใช้สารกึ่งตัวนำซิลิคอนที่คนไทยนิยมใช้มีทั้งหมด 3 ชนิดหลัก ดังนี้ โซลาร์เซลล์แบบผลึกเดี่ยว โซล่าเซลล์แบบผลึกรวม โซล่าเซลล์แบบฟิล์มบาง โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
-เป็นพลังงานสะอาด
เพราะได้มาจากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งนำมาซึ่งภาวะเรือนกระจก และมลพิษทางอากาศต่างๆ
- เป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมด
เพราะถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ร่วมกับดวงอาทิตย์และพลังงานธรรมชาติแบบร้อยเปอร์เซนต์ซึ่งพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติและไม่มีวันหมดไป
- ผลิตไฟฟ้าได้ทุกขนาด
โซล่าเซลล์สามารถช่วยผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ทั้ง ช่วยลดค่าไฟฟ้า ช่วยกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือช่วยผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง ซึ่งสามารถผลิตได้ทุกขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะต้องการมาก หรือน้อย ใช้ในพื้นที่เล็กๆอย่างเช่น บ้าน หรือ พื้นที่ขนาดใหญ่ อย่างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เช่นกัน
-ไม่จำเป็นต้องมีระบบส่ง
เพราะโซลาร์เซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในบริเวณที่จะใช้งานได้เลย แตกต่างจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าในระบบปกติที่จะต้องนำส่ง เพราะแหล่งผลิตกับแหล่งใช้งานอยู่คนละที่กัน
-ลดค่าไฟ
สามารถช่วยลดค่าไฟให้กับเราได้ตั้งแต่ครั้งแรกของการติดตั้งและใช้ระยะเวลาในการคืนทุนสั้น
-เป็นพลังงานทดแทนที่ดี
นอกจากสามารถประหยัดค่าไฟแล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรือผู้ที่ต้องการสำรองไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย
ข้อเสีย
- ปริมาณไม่แน่นอน
เพราะกระบวนการผลิตขึ้นอยู่กับความเข้มของพลังงานแสงอาทิตย์หรือสภาพอากาศโดยตรง ถ้าหากวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าเต็มที่ ถ้าหากวันไหนอากาศไม่ดี มีฝนหรือมีหมอก ก็จะได้ปริมาณไฟฟ้าน้อยลง
-พลังงานไม่ค่อยสูง
เพราะความเข้มของพลังงานดวงอาทิตย์ไม่สูงมากนัก ดังนั้น ถ้าหากที่ไหนต้องการปริมาณไฟฟ้ามาก ก็ต้องใช้จำนวนโซลาร์เซลล์และพื้นที่ในการติดตั้งเพิ่มมากขึ้น
- เก็บสะสมไว้ใช้ได้ไม่นาน
เพราะกระบวนการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีแสงเท่านั้น ฉะนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์รองรับเพื่อสลับไปใช้ระบบไฟฟ้าปกติ หรือมีแบตเตอรี่เพื่อเก็บไว้ใช้ยามสำรอง
-ราคา
ราคาค่อนข้างสูงสำหรับการติดตั้งในครั้งแรก
-ใช้พื้นที่เยอะ
ในการติดตั้งแต่ละครั้ง จำเป็นต้องใช้พื้นที่สูง เพราะเเผงโซล่าเซลล์1แผง ใช้พื้นที่ประมาณ 1-2ตารางเมตร จึงเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอ
2 กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ 5kw1PH 220v จำนวน 1ตัว
กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณไฟ ที่ใช้งานร่วมกับระบบโซล่าเซลล์ ซึ่งจะทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้ากระแสตรงที่ได้จากการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ โดยจะทำการซิงโครไนซ์กัน ระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ได้จากระบบโซล่าเซลล์ กับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า เมื่อใช้ไฟฟ้าเราก็จะดึงพลังงานกระแสไฟที่เราผลิตได้มาใช้จึงทำให้เราประหยัดและลดค่าใช้จ่าย แถมยังสามารถขายไฟฟ้าที่เราไ่ม่ได้ใช้ทางอ้อมด้วย(กรณีนี้ต้องยื่นเรื่องกับการไฟฟ้าก่อน)
ข้อจำกัดในการใช้งานคือ กริดไทด์อินเวอร์เตอร์จะไม่สามารถใช้งานในช่วงเวลากลางคืน และในเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ เช่น ไฟดับ อินเวอร์เตอรจะหยุดทำงานทันที แม้ว่าแผงโซล่าเซลล์ยังคงใช้งานอยู่ก็ตาม
ข้อแนะนำการใช้งาน กริดไทด์อินเวอร์เตอร์ ก่อนจะนำมาใช้งาน ควรคำนวณการใช้ให้เหมาะสมก็จะสามารถช่ยลดค่าไฟภายในบ้านได้ แต่ถ้าคำนวณออกมาได้ไม่เหมาะสม เช่น ถ้าติดตั้งระบบใหญ่เกินไปแต่มีการใช้งานเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้มิเตอร์หมุนย้อนได้
ข้อดี
-แปลงไฟฟ้าได้ไม่ซับซ้อน
-ช่วยลดค่าไฟได้ดี
-รักษาระดับแรงดันให้มีประสิทธิภาพ
-มีความปลอดภัยสูงต่อกการใช้งาน
-ในบางรุ่นสามารถแสดงผลการผลิตไฟฟ้าจากอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนต่างๆได้
ข้อเสีย
-ไม่สามารถใช้งานในเวลากลางคืนได้ หรือ ในเวลาที่ไฟตก ไฟดับ
3 ตู้ควบคุมการทำงานพร้อมอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่าและอุปกรณ์ตัดต่อวงจร จำนวน 1ตัว
ตู้ควบคุมระบบการทำงาน ป้องกันระบบโซล่าเซลล์จากไฟฟ้าทั้งด้านที่มาจาก แผงโซล่าเซลล์ และไฟฟ้าที่มาจากไฟฟ้าของการไฟฟ้าโดยมีตัวป้องกันไฟช็อต เปิดปิดระบบทั้งสองด้าน มีระบบป้งกันฟ้าผ่า สำหรับ 1เฟส และ 3 เฟส ซึ่งจะทำให้ระบบโซล่าเซลล์ไม่เสียหาย หรือเสียหายน้อยที่สุด
4 อุปกรณ์ป้องกันไฟย้อนมิเตอร์1เฟส จำนวน 1ตัว
เป็นอุปกรณ์เสริมที่จะมีส่วนช่วยป้องการเสียหายในวงกว้างได้ดี การติดตั้งอุปกรณ์กันย้อนมีหลักการทำงานคือ จะใช้ตัว ct ตรวจจับกระแสการใช้งานในบ้านทั้งหมด ซึ่งจะค่อนข้างสะดวกสบายเพราะไม่ต้องถอดสายเมนการทำงานคือหากตัว ct ตรวจจับกระแสได้น้อยตัวควบคุมจะสั่งงานให้แผงโซล่าเซลล์จ่ายกระแสไฟฟ้าน้อยลง และจะผลิตกระแสไฟให้สัมพันธ์กับการใช้งานภายในบ้านหรือสถานที่นั้นๆ และถ้าหากมีการใช้กระแสไฟฟ้ามาก ตัวควบคุมก็จะสั่งงานให้รีเลย์จ่ายกระแสไฟเต็มที่ จนทำให้มิเตอร์บริเวณหน้าบ้านหมุนได้ช้าลงหรือหยุดหมุน ช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟได้
5โครงสร้างอะลูมิเนียมสำหรับติดตั้งแผงบนหลังคาเมทัลชีท
5.1รางอะลูมิเนียม 4200 มม
5.2รางอะลูมิเนียมความยาว 2100 มม
5.3อุปกรณ์ยึดรางอะลูมิเนียมกับหลังคาเมทัลชีท
5.4อุปกรณ์ยึดแผงกับรางอะลูมิเนียม(ระหว่างแผง)
5.5อุปกรณ์ยึดแผงกับรางอะลูมิเนียม(ริมแผง)
5.6ตัวต่อรางอะลูมิเนียม
-อุปกรณ์จับยึด แผงโซล่าเซลล์ บนหลังคา (Solar Mounting) ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียม และ เหล็กชุบกันสนิม ที่มีความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ติดตั้งง่าย มีความแข็งแรงใช้ในงานติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ในแบบต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นติดตั้งบนหลังคากระเบื้อง - เมทัลชีท รวมไปถึงงานติดตั้งบนดาดฟ้าและพื้นดิน
ประโยชน์
การติดตั้งระบบออนกริดเหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการปรับลดอัตราค่าไฟ หรือสำหรับผู้ที่มีความต้องการขายไฟคืนให้กับการการไฟฟ้า ซึ่งการติดตั้งระบบออนกริดสามารถทำได้ทั้งในอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหรรมที่มีอัตราและชั่วโมงการใช้ไฟสูงมากในแต่ละวัน โดยระบบโซล่าเซลล์แบบออนกริด เป็นการเชื่อมต่อสายตรง โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ ระบบออนกริดเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ร่วมกับไฟฟ้าหลัก เป็นระบบที่เหมาะแก่การใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันเป็นหลัก โดยหลักการทำงานของของระบบออนกริดคือการนำพลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ที่ผลิตได้มาใช้ก่อนนั่นเอง